ฟิล์มกรองแสง(window film) กับผ้าม่าน (curtain) ควรเลือกแบบไหนดี
ฟิล์มกรองแสงกับผ้าม่าน
เฟอร์นิเจอร์โดนแดดแล้วสีซีดเพราะแสงแดดมีรังสียูวี (UV) ที่ทำลายโมเลกุลของสีในเฟอร์นิเจอร์ รังสียูวีนี้สามารถทะลุผ่านชั้นเคลือบของเฟอร์นิเจอร์และเข้าไปทำลายโมเลกุลของสี ทำให้สีของเฟอร์นิเจอร์ซีดลงและจางหายไปในที่สุด โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์บางชนิด เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ เฟอร์นิเจอร์ผ้าและเฟอร์นิเจอร์หนัง มักจะไวต่อรังสียูวีมากกว่าเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่น ดังนั้นจึงมีโอกาสสีซีดลงเร็วกว่าเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่น
โครงสร้างของฟิล์มกรองแสง
- ชั้นป้องกันรอยขีดข่วน
- ชั้นเคลือบโลหะกันร้อน
- ชั้นกาวประสานระหว่างชั้น
- ชั้นสี
- ชั้นกาวประสานระหว่างฟิล์มและกระจก
- ชั้นพลาสติก
ข้อดีของฟิล์มกรองแสง (window film)
ฟิล์มกรองแสง (window film) หรือ ฟิล์มติดกระจกที่ช่วยให้บานกระจกภายในบ้าน อาคาร สำนักงาน กรองแสงแดดได้ในระดับที่แตกต่างกันตามชนิดของฟิล์มที่เลือกใช้ ฟิล์มกรองแสงเป็นวัสดุที่เคลือบบนกระจกเพื่อลดแสงจ้า รังสียูวี (UV) และความร้อนจากดวงอาทิตย์ ฟิล์มกรองแสงมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
คุณสมบัติของฟิล์มกรองแสง (window film)
ฟิล์มกรองแสง (window film) ที่ดีควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ช่วยกรองแสง ลดแสงจ้า ฟิล์มกรองแสงที่ดีควรช่วยลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ได้ ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
- ป้องกันรังสียูวี รังสียูวีจากดวงอาทิตย์เป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตา ฟิล์มกรองแสงที่ดีควรป้องกันรังสียูวี (UV : Ultra Violet) ได้อย่างน้อย 99%
- ช่วยลดความร้อน ฟิล์มกรองแสงที่ดีควรช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ (IR : Infrared) ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานค่าไฟฟ้าภายในบ้าน อาคาร สำนักงานและช่วยกักเก็บอุณหภูมิให้เย็นสบายขึ้น
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว ฟิล์มกรองแสงบางประเภทสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้อยู่อาศัยได้
- ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และยังช่วยพลางสายตาจากมิจฉาชีพ โจรขโมยได้
การเลือกฟิล์มกรองแสงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณ ฟิล์มกรองแสงที่มีราคาแพงกว่าอาจมีคุณสมบัติที่ดีกว่า ในขณะที่ชนิดที่มีราคาไม่แพงก็อาจมีคุณสมบัติที่ดีเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้
การติดฟิล์มกรองแสง (window film) ช่วยเพิ่มความปลอดภัย สะดวกสบาย และความสวยงามให้กับบ้าน อาคาร สำนักงาน และรถยนต์
ข้อดีของการติดฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้าน
- ช่วยลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นและลดความเมื่อยล้าของดวงตา
- ป้องกันรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคผิวหนัง เช่น มะเร็งผิวหนัง และโรคตา เช่น ต้อกระจก
- ช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้ภายในบ้านเย็นสบายขึ้นและประหยัดค่าไฟฟ้า
- เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
- เพิ่มความปลอดภัยในบ้านในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยฟิล์มกรองแสงสามารถช่วยยึดกระจกไม่ให้แตกกระจายและป้องกันเศษกระจกบาดผู้อยู่อาศัย
การติดฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย สะดวกสบาย และความสวยงามให้กับบ้านของคุณ
ประเภทของฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านที่ได้รับความนิยม
- ฟิล์มกรองแสงแบบมืด ฟิล์มกรองแสงแบบมืดเป็นฟิล์มกรองแสงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ฟิล์มกรองแสงแบบมืดจะช่วยลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
- ฟิล์มกรองแสงแบบใส ฟิล์มกรองแสงแบบใสเป็นฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลดความสว่างของห้องมากนัก ฟิล์มกรองแสงแบบใสจะช่วยลดความร้อนจากดวงอาทิตย์และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
- ฟิล์มกรองแสงแบบนิรภัย ฟิล์มกรองแสงแบบนิรภัยเป็นฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการโจรกรรม ฟิล์มกรองแสงแบบนิรภัยจะช่วยยึดกระจกไม่ให้แตกกระจายและป้องกันเศษกระจกบาดผู้อยู่อาศัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ฟิล์มกรองแสงแต่ละประเภท
- ฟิล์มย้อมสี (color coating film)
- ฟิล์มฝังสีด้วยไอร้อน (deep dyeing film)
- ฟิล์มเคลือบสารด้วยไอร้อน (thermal evaporation film)
- ฟิล์มย้อมสีด้วยการฉาบนาโน (magnetron sputtering coating)
ฟิล์มย้อมสี | ฟิล์มฝังสีด้วยไอร้อน | ฟิล์มฉาบสารกันร้อน | ฟิล์มย้อมสีด้วยการฉาบ | |
ระดับการป้องกันความร้อน | น้อย | น้อยมาก | กันได้ | กันได้ |
ระดับป้องกัน UV | 60-70% | 70-90% | 75-95% | 99% |
การสะท้อนแสง | สะท้อนแสงน้อย | สะท้อนแสงน้อย | สะท้อนแสงมาก | สะท้อนแสงกลาง-มาก |
ระยะเวลาการใช้งาน | 1 ปี | 5 ปี | 7 ปี | 7 ปี |
ทั้งนี้นอกจากฟิล์มกรองแสงจะมีหลากหลายชนิดให้เลือกตามความเหมาะสมแล้ว ผ้าม่านก็มีมากมายหลายประเภทเช่นเดียวกัน โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
ประเภทของผ้าม่านยอดนิยม
- ผ้าม่านเนื้อทึบแสง (Blackout Curtains) : ผ้าม่านเนื้อทึบแสงสามารถป้องกันแสงแดดได้ทั้งหมด ทำให้ห้องมืดสนิทเหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องทำงานที่ต้องการความมืด
- ผ้าม่านเนื้อโปร่งแสง (Sheer Curtains) : ผ้าม่านเนื้อโปร่งแสงสามารถกรองแสงแดดได้บางส่วน ทำให้ห้องสว่างขึ้นแต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องครัวที่ต้องการแสงสว่าง
- ผ้าม่านเนื้อจีบ (Pleated Curtains) : ผ้าม่านเนื้อจีบเป็นผ้าม่านที่มีจีบเป็นชั้นๆ สวยงาม เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการความหรูหรา
- ผ้าม่านเนื้อหูกระเช้า (Eyelet Curtains) : ผ้าม่านเนื้อหูกระเช้าเป็นผ้าม่านที่มีหูกระเช้าติดอยู่ตามขอบผ้า เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการความเรียบง่าย
- ผ้าม่านเนื้อมู่ลี่ (Blinds) : ผ้าม่านเนื้อมู่ลี่เป็นผ้าม่านที่ทำจากไม้ พลาสติก หรือโลหะ เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องทำงานหรือห้องครัวที่ต้องการความทันสมัย
ประโยชน์ของผ้าม่าน (curtain)
- เพิ่มความสวยงามและสไตล์ให้กับบ้าน อาคาร สำนักงาน ผ้าม่านสามารถช่วยเพิ่มสีสัน ลวดลาย และสไตล์ให้กับบ้านโดยสามารถเลือกผ้าม่านที่เข้ากับการตกแต่งภายในของคุณได้อย่างลงตัว
- เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านของคุณ ผ้าม่านสามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านของคุณได้ คุณสามารถปิดม่านเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวหรือเมื่อต้องการพักผ่อน
- ช่วยลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ ผ้าม่านสามารถช่วยช่วยลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ได้ สิ่งนี้สามารถช่วยปกป้องดวงตาของคุณจากแสงแดดจ้าและช่วยให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้นในเวลากลางคืน
- ช่วยประหยัดพลังงานค่าไฟฟ้าและทำให้บ้านของคุณเย็นสบายขึ้น
- ป้องกันฝุ่นละออง และยังช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้และทำให้บ้านของคุณสะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
- ป้องกันเสียงรบกวน ผ้าม่านสามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกบ้านได้ สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มความสงบและผ่อนคลายให้กับบ้านของคุณ
เคล็ดลับในการเลือกผ้าม่านสำหรับบ้านของคุณ
- พิจารณาสไตล์การตกแต่งภายใน โทนสีและเนื้อผ้า
- พิจารณาขนาดของหน้าต่าง บานกระจกที่ต้องการติดตั้ง
- ระดับแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามายังบริเวณห้อง บ้าน อาคาร สำนักงาน รวมทั้งยังต้องพิจารณาปริมาณแสง ความทึบแสงตามปริมาณแสงที่คุณต้องการ
- พิจารณาราคา ผ้าม่านมีราคาตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงราคาแพง เลือกผ้าม่านที่มีราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณ
การติดผ้าม่านหรือฟิล์มกรองแสงมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล
ข้อดี-ข้อเสียของการติดตั้งผ้าม่านและฟิล์มกรองแสง
ผ้าม่าน (curtain)
- ข้อดี: ผ้าม่านมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและสีสัน สามารถปรับความทึบแสงได้ สามารถถอดซักได้ ราคาถูกกว่าฟิล์มกรองแสง
- ข้อเสีย: ผ้าม่านอาจต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดและดูแลรักษา ไม่สามารถป้องกันรังสี UV และความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ ไม่สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้
ฟิล์มกรองแสง (window film)
- ข้อดี: ฟิล์มกรองแสงสามารถป้องกันรังสี UV และความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ติดตั้งง่าย ดูแลรักษาง่าย
- ข้อเสีย: ฟิล์มกรองแสงมีราคาแพงกว่าผ้าม่าน ไม่สามารถปรับความทึบแสงได้ ไม่สามารถถอดซักได้
การเลือกติดผ้าม่านหรือฟิล์มกรองแสงขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล หากต้องการความสวยงามและปรับเปลี่ยนได้ ผ้าม่านเป็นตัวเลือกที่ดี หากต้องการป้องกันรังสี UV ความร้อน เสียงรบกวน ฟิล์มกรองแสงเป็นตัวเลือกที่ดี