ทำยังไงเมื่อฟิล์มกรองแสงที่ใช้ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน

พรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 “เจ้าหน้าที่สามารถอนุโลมให้ติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์บานหน้าแบบเต็มบานได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ เช่น ความทึบของฟิล์มมากเกินไปทำให้เสี่ยงต่ออันตรายบนท้องถนน หรือ สะท้อนมากจนรบกวนสายตาผู้ร่วมใช้ถนน” 

รู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนฟิล์มกรองแสง 

  • ฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานระหว่าง 5 – 10 ปี 
  • ฟิล์มกรองแสงเปลี่ยนสีจากเดิม สีซีด หรือสีเพี้ยน 
  • ฟิล์มมีฟองอากาศ และหรือมีรอยยับ
  • มองออกไปภายนอกเห็นภาพซ้อน
  • อุณหภูมิภายในสูงกว่าปกติ
  • ภายในรถยนต์มีกลิ่นอับ 

เมื่อสังเกตพบว่ารถของคุณมีสัญญาณเหล่านี้ ก็ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยการเปลี่ยนฟิล์ม สามารถทำได้โดย

วิธีเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วยตัวเอง

การเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วยตัวเองสามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความชำนาญและอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพราะฟิล์มกรองแสงรถยนต์มีราคาค่อนข้างสูง และต้องติดอย่างประณีต เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน 

เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ดังนี้

  • ฟิล์มกรองแสง
  • เกรียงรีดฟิล์ม
  • ยางดำติดฟิล์ม
  • ฟ็อกกี้ฉีดน้ำ
  • กระดาษทิชชูอเนกประสงค์แบบหนา
  • ใบมีดคัตเตอร์
  • ใบมีดโกน (ใบแมงปอ)
  • น้ำยาลอกกาว
  • น้ำยาติดตั้งหรือแชมพูเด็ก
  • ไดร์เป่าผม
  • ถุงมือผ้า

ขั้นตอนการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสง

  • ลอกฟิล์มกรองแสงเก่าออกให้หมด โดยใช้ใบมีดคัตเตอร์หรือใบมีดโกนค่อยๆ ลอกกาวออกจนหมด หากฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานยาวนานหรือเก่ามากฟิล์มจะหลุดเป็นชิ้นต้องค่อยๆใช้ด้ามลอกฟิล์มขูดลอกและทำความสะอาดให้เกลี้ยง
  • ทำความสะอาดกระจกให้สะอาด ปราศจากฝุ่น เศษผง หรือคราบสกปรก
  • วางฟิล์มกรองแสงลงบนกระจก โดยให้ด้านที่มีกาวอยู่ด้านนอก
  • ใช้เกรียงรีดฟิล์มไล่ฟองอากาศออกให้หมด โดยไล่จากกลางกระจกไปด้านนอก
  • ใช้ยางดำติดฟิล์มช่วยกดทับฟิล์มไม่ให้เลื่อนหลุด
  • ปล่อยให้ฟิล์มแห้งสนิทประมาณ 24 ชั่วโมง

หากไม่ชำนาญในการติดฟิล์มกรองแสง แนะนำให้ใช้บริการร้านติดฟิล์มรถยนต์มืออาชีพ เพราะนอกจากจะได้งานที่มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาและความยุ่งยากได้อีกด้วย

ข้อควรระวังในการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วยตัวเอง

  • ใช้ฟิล์มกรองแสงที่ได้มาตรฐานและคุณภาพดี
  • เลือกฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มเหมาะสมกับการใช้งาน
  • ทำความสะอาดกระจกให้สะอาดก่อนติดฟิล์ม
  • ติดฟิล์มให้เรียบร้อยตามขั้นตอน
  • ปล่อยให้ฟิล์มแห้งสนิทก่อนใช้งาน

เปลี่ยนฟิล์มกรองแสงโดยผู้เชี่ยวชาญ

ช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ มักจะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการติดฟิล์มให้มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน เทคนิคเหล่านี้ มักได้รับการถ่ายทอดจากช่างรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง หรือผ่านการอบรมจากบริษัทผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงโดยตรง

เทคนิคติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ 

  • การเตรียมพื้นผิวกระจกให้สะอาด ช่างผู้เชี่ยวชาญจะทำความสะอาดกระจกให้สะอาดหมดจด ปราศจากฝุ่น เศษผง หรือคราบสกปรก โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกและผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง
  • การใช้น้ำยารีดฟิล์ม ช่างจะใช้น้ำยารีดฟิล์มช่วยในการติดฟิล์ม เพื่อให้ฟิล์มติดกับกระจกได้อย่างเรียบสนิทและไล่ฟองอากาศออกได้หมดจด
  • การใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม ช่างจะเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมในการติดฟิล์ม เช่น
    • เกรียงรีดฟิล์ม
    • ยางดำติดฟิล์ม
    • ฟ็อกกี้ฉีดน้ำ
    • กระดาษทิชชูอเนกประสงค์แบบหนา
    • ใบมีดคัตเตอร์
    • ใบมีดโกน (ใบแมงปอ)
  • ความชำนาญและความประณีต ช่างจะมีความชำนาญและความประณีตในการติดฟิล์ม ทำให้ได้งานที่มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน

นอกจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว ช่างยังอาจใช้เทคนิคอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด เช่น

  • การใช้เครื่องตัดฟิล์ม ช่างจะใช้เครื่องตัดฟิล์มในการตัดฟิล์มให้พอดีกับกระจก ทำให้ได้งานที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • การใช้เครื่องอบฟิล์ม ช่างจะใช้เครื่องอบฟิล์มในการอบฟิล์มให้แห้งสนิทอย่างรวดเร็ว ทำให้ฟิล์มติดกับกระจกอย่างแน่นหนา
  • การใช้ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง ช่างจะเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีอายุการใช้งานยาวนาน

หากต้องการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ให้มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน แนะนำให้ใช้บริการร้านติดฟิล์มรถยนต์มืออาชีพที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะนอกจากจะได้งานที่มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาและความยุ่งยากได้อีกด้วย

Similar Posts