บ้านร้อนตอนกลางวัน อยากทำให้เย็นโดยไม่เปลืองแอร์ทำยังไง?
บ้านร้อนตอนกลางวัน ทำยังไงให้คลายร้อนอยู่กลางวันไม่เปลืองแอร์
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับและไม่อาจหลีกหนีได้นั่นก็คือ ความร้อนของอากาศและความจ้าของแสงแดดที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน ไม่ว่าจะต้องทำงานในที่ร่ม บ้าน อาคาร หรือต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง แม้ว่าจะป้องกันอย่างดีแล้วด้วยครีมกันแดด กางร่ม สวมหมวก แต่ก็ไม่แทบไม่ช่วยให้ความร้อนที่สะท้อนจากพื้น กำแพง สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงมวลอากาศที่อัดแน่นเป็นไอร้อนสัมผัสกาย
ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงทำให้มีความร้อนชื้นตลอดทั้งปี โดยเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 19-38 องศาเซลเซียส สูงหรือต่ำขึ้นอยู่กับบรรยากาศโดยรวมในแต่ละวันด้วยเช่นกัน และแม้ว่าในอากาศหนาวโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ที่มีความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัย ตึกราอาคารสูง ก็ไม่ทำให้อากาศเย็นขึ้นสักเท่าใดนัก ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แม้ในต่างประเทศแถบเอเชีย ยุโรป ฯลฯ ก็พบปัญหานี้ด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น การเลือกที่จะอยู่ร่วมกับอากาศร้อนอบอ้าวในแต่ละวัน มีเทคนิควิธีการแก้ปัญหาเหล่านั้นอยู่เพื่อไม่ให้ค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานสูงขึ้นอย่างน่ากังวล ก่อนอื่นเลยต้องทำความเข้าใจสักเล็กน้อยถึงสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อน
สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อน
1. แสงแดด แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านร้อน แสงแดดจะเข้ามาทางหน้าต่างและทำให้บ้านร้อนขึ้นได้
วิธีแก้ไข: ติดฟิล์มกรองแสง หรือใช้มู่ลี่หรือม่านปิดหน้าต่างในช่วงกลางวัน อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงกันความร้อนสามารถช่วยป้องกันไม่ให้บ้านร้อนได้ เนื่องจากเป็นฟิล์มที่เคลือบสารบางชนิดไว้บนพื้นผิวของกระจก สารเคลือบนี้จะช่วยสะท้อนรังสีอินฟราเรด (IR) ไม่ให้ผ่านเข้ามาภายในอาคารได้ รังสีอินฟราเรดคือรังสีความร้อนที่เกิดจากแสงแดด ฟิล์มกรองแสงกันความร้อนจึงช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดไม่ให้เข้ามาภายในอาคาร ทำให้บ้านเย็นขึ้นได้
ฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกฟิล์มกรองแสงกันความร้อนควรพิจารณาจากความต้องการและการใช้งาน เช่น ต้องการลดความร้อนมากน้อยแค่ไหน ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือไม่ ต้องการป้องกันรังสี UV หรือไม่ เป็นต้น นอกจากฟิล์มกรองแสงจะช่วยกันความร้อนสะท้อนไอแดดแล้ว ยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น
- ลดความร้อนจากแสงแดด ทำให้บ้านเย็นขึ้น
- ป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวและดวงตา
- เพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน ป้องกันคนร้ายมองเข้ามาภายในบ้านได้
- เพิ่มความสวยงามให้กับบ้านตามสไตล์ที่เลือกได้ด้วยตัวเอง
สนใจติดฟิล์มกรองแสงเพิ่มความสวยงาม ป้องกันความร้อนให้กับบ้าน อาคาร สำนักงาน
ผู้นำด้านฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้าน อาคาร คอนโดและรถยนต์ ให้บริการด้วยฟิล์มกรองแสงคุณภาพเยี่ยมมาตรฐานสากล ติดตั้งและดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ
2. วัสดุก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างบางชนิด เช่น ไม้ คอนกรีต และอิฐ ดูดซับความร้อนได้ดี ทำให้บ้านร้อนขึ้นได้
วิธีแก้ไข: ใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติกันความร้อน เช่น ฉนวนกันความร้อน โดยฉนวนกันความร้อนเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการไหลของความร้อนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ฉนวนกันความร้อนมักทำจากวัสดุที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุนหรือเป็นเส้นใย ซึ่งจะช่วยลดการถ่ายเทความร้อนได้ ฉนวนกันความร้อนนิยมใช้ในงานก่อสร้างเพื่อช่วยลดความร้อนที่รั่วไหลออกจากอาคารในช่วงฤดูร้อน และช่วยรักษาความอบอุ่นภายในอาคารในช่วงฤดูหนาว
นอกจากนี้แล้วการเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนยังช่วยให้
- ประหยัดพลังงาน โดยช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน
- เพิ่มคุณภาพชีวิต โดยทำให้บ้านเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน และอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว
- เพิ่มความปลอดภัย โดยป้องกันการเกิดเพลิงไหม้
- เพิ่มอายุการใช้งานของอาคาร โดยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความร้อน เช่น รอยแตกร้าว ตะไคร่น้ำ และเชื้อรา
ฉนวนกันความร้อนมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกฉนวนกันความร้อนควรพิจารณาจากความต้องการและการใช้งาน เช่น ต้องการลดความร้อนมากน้อยแค่ไหน ต้องการความทนทานมากน้อยแค่ไหน ต้องการราคาประหยัดหรือไม่
ฉนวนกันความร้อนเป็นวัสดุที่มีประโยชน์และคุ้มค่าในการลงทุน การติดตั้งฉนวนกันความร้อนจะช่วยประหยัดพลังงาน เพิ่มคุณภาพชีวิต และเพิ่มความปลอดภัยให้กับอาคาร
3. ทิศทางลม บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกจะร้อนกว่าบ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก เนื่องจากทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดโดยตรงมากกว่า
วิธีแก้ไข : ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้รอบบ้านเพื่อบังแดด ทั้งนี้การปลูกต้นไม้จำเป็นต้องให้เวลาและการเอาใจใส่ในการดูแลด้วยเช่นกัน นอกจากช่วยบังแดดแล้ว ยังช่วยเพิ่มทัศนียภาพให้แก่บ้าน อาคาร สำนักงานอีกด้วย โดยต้นไม้ที่ปลูกเพื่อบังแดดได้ดีมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความชื่นชอบของเจ้าบ้านและผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้ ต้นไม้ที่นิยมปลูกเพื่อบังแดดในประเทศไทย เช่น
- ต้นไทร
- ต้นมะยม
- ต้นมะขาม
- ต้นมะม่วง
- ต้นไผ่
- ต้นสน
- ต้นพะยูง
- ต้นสัก
- ต้นประดู่
- ต้นงิ้ว
ต้นไม้เหล่านี้เป็นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นสูง ใบหนา และให้ร่มเงาได้ดี เหมาะสำหรับปลูกเพื่อบังแดดบ้าน ในสวน และนอกจากนี้การปลูกต้นไม้เพื่อบังแดดยังช่วยให้
- ลดความร้อนจากแสงแดด ทำให้บ้านหรือพื้นที่เย็นสบายขึ้น
- ลดเสียงรบกวนจากภายนอก
- เพิ่มออกซิเจนให้บรรยากาศดีขึ้น
- เพิ่มความสวยงามให้กับบ้านหรือพื้นที่
- ดูดซับฝุ่นละอองและสารพิษในอากาศ
อย่างไรก็ตามการปลูกต้นไม้เพื่อบังแดดยังเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นและน่าอยู่ยิ่งขึ้น ต้นไม้ยังช่วยประหยัดพลังงานและลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย
4. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ปิดทึบจะทำให้บ้านร้อนขึ้นได้
วิธีแก้ไข : จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้โปร่งโล่งเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านได้
5. การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเตาอบ ปล่อยความร้อนออกมามาก ทำให้บ้านร้อนขึ้นได้
วิธีแก้ไข : ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง และปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน
ปัญหาบ้านร้อน บ้านอบอ้าว สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างไรก็การเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านที่มีการติดกระจกโดยรอบ เป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหา ร่วมกับการติดฉนวนกันความร้อนก็จะยิ่งช่วยสะท้อนไม่ให้ไอแดดกระทบเข้ามาภายใน แต่ยังคงให้ความโปร่ง สว่าง ไม่อึดอัด และยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างดี โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีการตกแต่งสวน ประดับประดาด้วยต้นไม้ ย่อมต้องการมองเห็นเพิ่มอรรถรสและคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่บ้าน การติดฟิล์มกรองแสงชนิดใสจึงตอบโจทย์การแก้ปัญหานี้อย่างมาก